ดัชนีทองเดือน เมษายน และไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 กังวลสถานการณ์หนี้ธนาคารสหรัฐฯ ดันดัชนีพุ่ง

ณ วันที่ 11/04/2566

ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ แถลงดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน เมษายน 2566 ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา จากระดับ 64.01 จุด มาอยู่ที่ระดับ 65.14 เพิ่มขึ้น 1.13 จุด หรือคิดเป็น 1.77% โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้นนั้น มีสาเหตุมาจาก สถานการณ์สถาบันการเงินของสหรัฐฯ การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย และความกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอย

ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำระยะสามเดือนในไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรก จากระดับ 61.96 จุด มาอยู่ที่ระดับ 62.70 จุด เพิ่มขึ้น 0.74 จุด หรือคิดเป็น 1.19% โดยดัชนีฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นมานั้น มีสาเหตุมาจาก ความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ความกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอย และความต้องการทองคำของธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ 

    

    

คาดการณ์ความต้องการซื้อทองคำในช่วงเดือน เมษายน 2566 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 330 ราย ในจำนวนนี้มี 154 ราย หรือเทียบเป็น 47% ซื้อทองคำ ส่วนจำนวน 120 ราย หรือเทียบเป็น 36% ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำในเดือนนี้หรือไม่ และจำนวน 56 ราย หรือเทียบเป็น 17% ไม่ซื้อทองคำ

สรุปกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ และ ผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 13 ราย ในจำนวนนี้มี 6 ราย หรือเทียบเป็น 46% เชื่อว่าราคาทองคำในเดือน เมษายน 2566 จะเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 5 ราย หรือเทียบเป็น 39% คาดว่าใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือน มีนาคม และจำนวน 2 ราย หรือเทียบเป็น 15% คาดว่าจะลดลง

    

สำหรับการคาดการณ์ราคาทองคำในเดือน เมษายน 2566 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมอง ดังนี้ Gold Spot ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 1,912 – 2,050 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 31,050 – 32,950 บาทต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ และด้านค่าเงินบาท ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 33.63 – 35.09 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ

    

    

การลงทุนทองคำในเดือน เมษายน 256ผู้ค้าทองคำรายใหญ่ให้ความเห็นว่า ราคาทองคำเมื่อเดือน มีนาคม ที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปัญหาระบบธนาคารในสหรัฐฯ ขาดสภาพคล่อง ทั้งนี้ ในเดือน เมษายน ยังคงแนะนำนักลงทุนเน้นการทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัวของราคาทอง ไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาทองหลุดแนวรับ และให้แบ่งขายทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น และยังคงต้องระวังแรงขายทำกำไร เมื่อราคาทองคำปรับตัวเข้าใกล้โซน 2,075 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อปี 2563

Download รายงานศูนย์วิจัยทองคำประจำเดือน เมษายน 2566 ฉบับเต็มได้ที่นี่