ณ วันที่ 11/08/2559
Jewelmer ถือเป็นผู้นำการผลิตไข่มุกสีทองคุณภาพอันดับหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ ณ หมู่เกาะปาลาวัน ประเทศ ฟิลิปปินส์ จัดตั้งโดย ฌากส์ บราเนลเล็ค นักบินชาวฝรั่งเศส ที่ละทิ้งวงการนักบินเข้าสู่วิถีการทำฟาร์มไข่มุกกับอาจารย์ชาวญี่ปุ่น จนประสบความสำเร็จเป็นรายแรกๆ ของโลกในการเพาะเลี้ยงมุกตาฮิติ (ไข่มุกสีดำ) แต่เมื่อขัดแย้งกับหุ้นส่วนจึงขายบริษัททิ้ง
จากนั้น ฌากส์ บราเนลเล็ค จึงแล่นเรือสำรวจแหล่งการทำฟาร์มไข่มุกไปเกือบทั่วโลก ทั้งยุโรป มหาสมุทรแอตแลนติก มหาสมุทรแปซิฟิก และเอเชีย จนมาถึงหมู่เกาะปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์ แหล่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และมาพบกับ Mr.มานูแอล โคจองโก นักธุรกิจชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งมีวิสัยทัศน์ตรงกัน จึงได้ร่วมกันก่อตั้งฟาร์มไข่มุก Jewelmer International Corporation มาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2522 และใช้เวลาคิดค้นและพัฒนาไข่มุกสีทองสำเร็จเป็นเจ้าแรกของโลก ปัจจุบัน Jewelmer มีฟาร์มไข่มุกสีทองอยู่ 6 แห่งบนหมู่เกาะปาลาวัน สถานที่อนุบาลหอยมุก และห้องแล็ปวิจัย 2 แห่ง โรงงานเครื่องประดับ 1 แห่ง และโชว์รูมเครื่องประดับ 10 แห่ง ใน 7 ประเทศทั่วโลก ทั้งฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา
กว่าจะได้ไข่มุกสีทองซึ่งเป็นมุกหายากและราคาแพงที่สุดในโลกนั้น ต้องผ่านกระบวนการถึง 323 ขั้นตอน เริ่มจากกระบวนการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนของหอยมุกสายพันธุ์ Pinctada Maxima โดยตัวอ่อนหอยมุกจะถูกบรรจุอยู่ในตาข่าย หย่อนลงใต้ทะเลที่ระดับความลึก 15 เมตร โดยในช่วง 2-3 ปีแรก คนงานในฟาร์มต้องบันทึกสภาพอากาศและ การเปลี่ยนแปลงของน้ำทะเล ที่จะส่งผลต่อการเติบโตของตัวอ่อนหอยมุก หลังจากนั้นก็จะถึงขั้นตอนการเพาะย้ายเนื้อเยื่อ และฝังเชลล์บีด (Shell Bead) ลงในส่วนของอวัยวะสืบพันธุ์ (Gonad) ของหอยโดยเจ้าหน้าที่เทคนิคเฉพาะเท่านั้น เพราะต้องอาศัยความชำนาญสูงในการวางตำแหน่งเชลล์บีด และชิ้นส่วนเนื้อเยื่อที่ได้จากหอยมุกตัวอื่น เพื่อให้เกิดสีตามต้องการ เมื่อหอยมุกเกิดการระคายเคืองก็จะปล่อยน้ำมุกออกมาเคลือบหุ้มเชลล์บีด ซึ่งจะใช้เวลา 2-3 ปี สำหรับการสร้างชั้นผลึกคริสตัลทับถมกันรอบๆ เชลล์บีดที่ใส่เข้าไป ระยะนี้หอยมุกจะถูกเลี้ยงอยู่ในตะกร้า และต้องหมั่นนำขึ้นมาตรวจเช็คความแข็งแรงด้วยเครื่องเอกซเรย์ และใช้เวลานานถึง 5 ปีจึงจะได้เวลาเก็บเกี่ยวหอยมุกสีทอง อันล้ำค่า
แม้ว่าปัจจุบัน Jewelmer จะผลิตไข่มุกได้ปีละ 1 ล้านเม็ด แต่จะได้ไข่มุกที่มีคุณภาพสูงเพียง 200-300 เม็ด เท่านั้น โดยไข่มุกที่สมบูรณ์จะต้องมีลักษณะกลมได้สัดส่วนสมดุล สะอาด พื้นผิวสดใสเงางามราวกับกระจก ไม่หมองคล้ำ คุณภาพของชั้นมุกต้องมีความหนาที่เหมาะสม ไม่บางจนเกินไปและให้สีสวยงาม
กว่า 35 ปีแล้วที่ Jewelmer ก็ยังสามารถผลิตไข่มุกคุณภาพสูงและพัฒนารูปแบบเครื่องประดับมุกที่ ผสมผสานศิลปะระหว่างกลิ่นอายตะวันตกและตะวันออกได้อย่างลงตัว สร้างชื่อเสียงให้ Jewelmer กระฉ่อนไปทั่วโลก ปัจจุบัน Jewelmer มีร้านค้าปลีกกระจายตัวอยู่ในโรงแรมระดับห้าดาวและห้างสรรพสินค้าในฟิลิปปินส์ ดูไบ ฮ่องกง เมลเบิร์น และปารีส
ที่มา : ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
ขอบคุณภาพจาก : www.thepearl.jewelmer.com