สมาคมค้าทองคำ ร่วมกับ ชมรมร้านทองหาดใหญ่ จัดสัมมนา “เจาะลึกทองปลอม สัญจร” ณ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

     หลังจากที่สมาคมค้าทองคำได้จัดโครงการสัมมนา “เจาะลึกทองปลอม” เพื่อให้ความรู้ เกี่ยวกับการตรวจสอบทองคำ เช่น การศึกษาวิธีการผลิตทองจริง-ปลอม วิธีการตรวจสอบทองปลอมด้วยตนเองและเครื่องมือต่างๆ ให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่กรุงเทพฯ และส่วนภูมิภาค มาแล้ว  9 ครั้ง ได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการเข้าร่วมงานจนแน่นขนัด ทำให้เกิดการตื่นตัว ที่จะร่วมกันเฝ้าระวัง และเตรียมรับมือกับมิจฉาชีพที่จะนำทองปลอมมาหลอกขาย ซึ่งทำให้ปัญหา ลดลง แต่มาในระยะหลังมีรายงานว่ากลุ่มมิจฉาชีพได้กลับมาลงมือปฎิบัติการณ์อีก และได้พัฒนาวิธีการและรูปแบบไปมาก

     ดังนั้น สมาคมค้าทองคำ จึงได้ร่วมกับชมรมร้านทองหาดใหญ่ จัดงานสัมมนา “เจาะลึกทองปลอม สัญจร” ขึ้นอีกครั้ง ณ ห้องแกรนด์บอลรูม 1,2 ชั้น 2  โรงแรมบุรีศรีภู บูติกโฮเต็ล อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อ สร้างองค์ความรู้ความเข้าใจในปัญหาทองปลอมในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการผลิตทองปลอม วิธีการดูทองปลอมแต่ละประเภทในเบื้องต้นด้วยตนเอง และเทคนิคการวิเคราะห์ทองปลอมด้วยเครื่องมือต่างๆ รวมถึงสร้างเครือข่ายของผู้ประกอบการเพื่อร่วมกันป้องกัน และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้หมดสิ้นไป

    ภายในงานจะมีกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความรู้ในด้านต่างๆ อาทิ การเสวนา ในหัวข้อ “ปัญหาทองปลอมแก้ยาก แต่แก้ได้” โดยวิทยากรจากคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาทองปลอม, ผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทนายความผู้เชี่ยวชาญคดีทองปลอม พร้อมทั้งตัวแทนผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยท่านประธานชมรมร้านทอง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

     นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอกรรมวิธีการผลิตทองรูปพรรณในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และการผลิตในอุตสาหกรรมขนาดเล็ก รวมทั้งตัวอย่างทองรูปพรรณลวดลายต่างๆ และขั้นตอนการผลิตทองปลอม รวมถึงการบรรยายวิธีการดูทองปลอมแบบง่ายๆ ด้วยตนเอง และเทคนิคการวิเคราะห์ทองปลอมด้วยเครื่องมือต่างๆ การจัดนิทรรศการทองปลอม

     นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้จะเป็น การนำเสนอข้อมูลในเชิงลึกกว่าการจัดงานทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากในปัจจุบันกลุ่มมิจฉาชีพ ได้พัฒนารูปแบบวิธีการไปมาก ทำให้ผู้ประกอบการร้านค้าทอง จำเป็นต้องรู้เท่าทันกลโกง ของกลุ่มมิจฉาชีพ รวมถึงร่วมกันสร้างเครือข่ายเฝ้าระวัง เพื่อร่วมกันป้องกัน และขจัดกลุ่มมิจฉาชีพ ให้หมดไป โดยในครั้งนี้ทางสมาคมค้าทองคำได้จับมือร่วมกับทางชมรมร้านทองหาดใหญ่ จัดงานสัมมนาขึ้น เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับทองปลอมให้แก่ ผู้ประกอบการร้านทองในพื้นที่ รวมถึงพื้นที่โดยรอบของอำเภอหาดใหญ่ เพื่อเป็นการป้องกันมิจฉาชีพ ที่จะเข้ามาสร้างความเสียหายอีกด้วย

     “การตรวจสอบทองปลอมนั้น หากผู้ประกอบการมีความระมัดระวัง และใช้เวลาในการตรวจวิเคราะห์สินค้าที่ลูกค้านำมาขายอย่างละเอียดรอบคอบ และรู้ข้อมูลหรือเทคนิคใหม่ๆ ที่กลุ่มมิจฉาชีพนำมาใช้ เชื่อว่าโอกาสพลาดจะมีน้อย ที่สำคัญหากผู้ประกอบการ ได้ส่งต่อข้อมูลถึงกัน จะทำให้กลุ่มมิจฉาชีพไม่สามารถลงมือปฏิบัติการในพื้นที่อื่นได้ ซึ่งในเรื่องนี้ถือว่าสำคัญมากนอกจากนั้น จะเป็นการดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพจนถึงที่สุด ก็จะทำให้กลุ่มมิจฉาชีพหวาดกลัวและลดจำนวนลง”

     นายจิตติฯ กล่าวเสริมฯ แผนการดำเนินงานในขั้นต่อไปว่า สมาคมฯ ยังเน้นเรื่อง การให้ ข้อมูลและการขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการให้ดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพอย่างเด็ดขาด เพราะเรื่องทองปลอมถือเป็นปัญหาใหญ่ในวงการค้าทอง เมื่อร้านค้าที่ได้รับความเสียหาย ยอมความไม่ดำเนินคดี ก็ทำให้กลุ่มมิจฉาชีพไม่เกรงกลัวและจะไปลงมือในพื้นที่อื่นต่อ ทำให้ปัญหานี้ไม่จบสิ้น

     ขณะที่นายเริงชัย วิริยะกุล ประธานชมรมร้านทองหาดใหญ่ กล่าวว่า “ทางชมรมร้านทองอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นเกียรติ และมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับสมาคมค้าทองคำในการจัดงานสัมมนาในครั้งนี้ ที่ผ่านมาทางชมรมร้านทองหาดใหญ่ ได้ดำเนินการจัดการปัญหามิจฉาชีพที่นำทองปลอมมาหลอกขายฝากให้กับร้านทองในพื้นที่อยู่ตลอดมา โดยในครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสอันดี ที่ผู้ประกอบการร้านทองในหาดใหญ่ จะได้รับทราบถึง กลโกงของมิจฉาชีพมากขึ้น พร้อมทั้งเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว เพื่อนำมาปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

     พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 กล่าวว่า “การที่สมาคมค้าทองคำ ได้ร่วมกับชมรมผู้ค้าทอง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้จัดงานสัมมนาในครั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีความรู้ สามารถป้องกันตนเองจากการถูกหลอกของกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ นับว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นวิธีการตรวจสอบทองคำปลอม วิธีการร่วมมือในการแก้ไขปัญหา ซึ่งในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการดำเนินการปราบปรามกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินคดี การสืบสวนสอบสวนหาต้นตอการผลิต ดำเนินการจับกุม เพื่อมิให้เกิดความเสียต่อประชาชนทุกคน” ทั้งนี้ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตำรวจภูธรภาค 9 ขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องทุกท่านในที่นี้ว่า เราให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าว จะเร่งรัดดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา เป็นหลักประกันความยุติธรรมให้กับทุกอย่างมีมาตรฐานสากล และจะพยายามดำเนินการปราบปรามอย่างเต็มที่เพื่อให้ปัญหาทองปลอมหมดไปจากพื้นที่ของเรา”

     ทั้งนี้ สมาคมฯ ขอขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนการจัดงาน ซึ่งประกอบไปด้วย บริษัท เฮลมุท ฟีสเชอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท ออสสิริส จำกัด, บริษัท ชายน์นิ่ง โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด, บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จำกัด, บมจ.ธนาคารกรุงไทย, บริษัท ควาร์ก สาม ศูนย์ หนึ่ง จำกัด, บริษัท เต็กไถ่ จิวเวลรี่ ซัพพลาย จำกัด, ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), บริษัทมานิต แอนด์ ทูล จำกัด, บริษัท วาย แอล จี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท ออโรร่า เทรดดิ้ง จำกัด, บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด, บริษัท จูเจียบเซ้ง จำกัด, บริษัท ห้างค้าทอง หลูชั้งฮวด (2498) จำกัด, บริษัท ห้างทองหยงเตียน จำกัด, บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด, บริษัท ทองภัทรโกลด์ แอนด์ ซิลเวอร์ จำกัด, บริษัท ห้างขายทอง ทองใบเยาวราช จำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างทองน่ำเชีย

      สุดท้ายนี้ สมาคมฯ ขอชี้แจงกรณีที่มีข่าวการจับกุมแหล่งผลิตทองปลอม และข่าวเรื่องทอง ปลอมระบาด ทำให้หลายคนอาจมีความกังวลว่า ถ้าไปซื้อทองแล้วจะเจอทองปลอมหรือไม่ ซึ่งอาจจะส่งผลให้ผู้บริโภคเข้าใจร้านทองแบบผิดๆ สมาคมฯ จึงขออธิบายทำความเข้าใจ ดังนี้

     1.ปัญหาทองปลอม คือ การที่คนร้ายผลิตทองปลอมนำมาขายหรือขายฝากในลักษณะทองเก่า ให้กับร้านทองเท่านั้น ไม่ได้ขายให้กับผู้บริโภค

     2.เมื่อร้านทองรับซื้อทองเก่าจากลูกค้า ซึ่งอาจเป็นคนร้ายนำทองปลอมมาหลอกขายนั้น ร้านทองจะไม่นำทองเก่าที่รับซื้อจากลูกค้ามาขายซ้ำ แต่จะนำกลับไปหลอมเพื่อผลิตทองรูปพรรณชิ้นใหม่แทนทั้งหมด

     ดังนั้น ลูกค้าผู้บริโภคสามารถสบายใจได้เลยว่า หากท่านไปซื้อทองกับร้านทองใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะร้านเล็กหรือร้านใหญ่ ในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด ก็จะได้ทองคำแท้อย่างแน่นอน และหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมหรือพบเบาะแสเรื่องทองปลอม สามารถแจ้งได้ที่สมาคมค้าทองคำ โทร 0-2675-8000 เพื่อร่วมมือร่วมใจกันจัดการกับปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง